การจัดการผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ
การระบุห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสีย
บริษัทให้ความสำคัญในการบริหารห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดความเสี่ยงจากการดำเนินงานธุรกิจในประเด็นด้านความยั่งยืน โดยคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและการพัฒนาธุรกิจทำการวิเคราะห์กิจกรรมหลักตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำขององค์กร ในการเพิ่มมูลค่าและคุณค่าในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการระบุผู้มีส่วนได้เสียที่มีความสำคัญหรือมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับกิจกรรมขององค์กร จากนั้นวิเคราะห์และทบทวนความสัมพันธ์ของข้อมูล ที่ผู้มีส่วนได้เสียได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวก เชิงลบจากกิจกรรมขององค์กร โดยผลจากการวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลักและ 6 กิจกรรมสนับสนุน นอกจากนี้โรงพยาบาลมีการจัดการความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ โดยแบ่งกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ออกเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.พนักงาน 2.ผู้รับบริการ 3.ชุมชนสังคมและสิ่งแวดล้อม 4.ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน 5.คู่ค้า 6.คู่แข่งทางธุรกิจ ดังนี้
การสร้างส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย
บริษัทดำเนินการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียผ่านการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับกิจกรรมขององค์กรในการประเมินผลกระทบทางบวกและทางลบทั้งที่เกิดขึ้นจริงและมีโอกาสที่จะเกิดจากการรวบรวมความคาดหวังผ่านช่องทางการรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมถึงบริบทด้านความยั่งยืนในการดำเนินการตอบสนองความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียผ่าน กลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจครอบคลุมในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม ตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ โดยมีช่องทางการสร้างการมีส่วนร่วม ความคาดหวังและข้อกังวล แนวทางการตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มและผลลัพธ์การดำเนินงาน ดังนี้
การสร้างการมีส่วนร่วม | ความคาดหวังและ ข้อกังวลปี 2565 | การตอบสนองปี 2565 | ผลลัพธ์ปี 2565 |
---|---|---|---|
พนักงาน | |||
|
|
|
|
การสร้างการมีส่วนร่วม | ความคาดหวังและ ข้อกังวลปี 2565 | การตอบสนองปี 2565 | ผลลัพธ์ปี 2565 |
---|---|---|---|
ผู้รับบริการ | |||
|
|
|
|
การสร้างการมีส่วนร่วม | ความคาดหวังและ ข้อกังวลปี 2565 | การตอบสนองปี 2565 | ผลลัพธ์ปี 2565 |
---|---|---|---|
ชุมชนสังคมและสิ่งแวดล้อม | |||
|
|
|
|
การสร้างการมีส่วนร่วม | ความคาดหวังและข้อกังวลปี 2565 | การตอบสนองปี 2565 | ผลลัพธ์ปี 2565 |
---|---|---|---|
ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน | |||
|
|
|
|
การสร้างการมีส่วนร่วม | ความคาดหวังและ ข้อกังวลปี 2565 | การตอบสนองปี 2565 | ผลลัพธ์ปี 2565 |
---|---|---|---|
คู่ค้า | |||
|
|
|
|
การสร้างการมีส่วนร่วม | ความคาดหวังและ ข้อกังวลปี 2565 | การตอบสนองปี 2565 | ผลลัพธ์ปี 2565 |
---|---|---|---|
คู่แข่งทางการธุรกิจ | |||
|
|
|
|
จรรยาบรรณธุรกิจการดำเนินการของคู่ค้า
โรงพยาบาลพระรามเก้ามุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส เป็นธรรมบนพื้นฐาน ของการกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจที่ดี โดยพิจารณาถึงความเสี่ยงและโอกาสด้านเศรษฐกิจ สังคม สิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของคู่ค้าผ่านการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้า ในการร่วมสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน บริษัท ดำเนินการจัดทำจรรยาบรรณคู่ค้า (Supplier Code of Conduct) เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนของโรงพยาบาลพระรามเก้ากับคู่ค้าในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ปฏิบัติต่อแรงงานตามกฎหมายและมีจริยธรรม ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม รวมถึงติดตามผลการดำเนินงานอย่างเคร่งครัด ดังนี้
คู่ค้าของบริษัทต้องส่งมอบสินค้า บริการที่มีคุณภาพ, ราคาเหมาะสมและเป็นธรรม อย่างถูกต้อง แม่นยำ ครบถ้วน และตรงเวลา มีการพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
คู่ค้าของบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงมีมาตรการในการเก็บรักษาความลับของบริษัท ไม่นำข้อมูลที่สำคัญทางธุรกิจไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท ตลอดจนข้อมูลความลับที่เกี่ยวข้องกับบริษัท หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท
คู่ค้าของบริษัทต้องปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายด้วยความรับผิดชอบ และเป็นธรรม เปิดกว้างในการให้โอกาสที่เท่าเทียมกันในการแข่งขันรวมถึงการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบกติกาการแข่งขันที่ดี และสุจริต
คู่ค้าของบริษัทต้องปฏิบัติตามข้อบังคับกฎหมายแรงงาน และปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างเสมอภาค ไม่มีการแบ่งแยก ไม่จ้างแรงงานผิดกฎหมาย ไม่บังคับใช้แรงงาน เช่น การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก
คู่ค้าของบริษัทควรดำเนินธุรกิจด้วยการคำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนและสังคม และมีส่วนร่วมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ผู้คนในชุมชนและสังคม
คู่ค้าต้องดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมตามกฎหมาย รวมถึงการบริหารจัดการด้านมลพิษและการกำจัดของเสีย และมีการพัฒนากระบวนการธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การดำเนินการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น
คู่ค้าควรใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า เพื่อลดปริมาณขยะให้น้อยลง และควรเลือกใช้หรือผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระมัดระวังไม่ดำเนินการใดที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมให้พนักงานใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างประหยัด มีประสิทธิภาพ
คู่ค้ามีสิทธิในการสอบถามข้อมูล แจ้งเบาะแส หรือร้องเรียนการกระทำที่ละเมิดจรรยาบรรณธุรกิจของโรงพยาบาลพระรามเก้า โดยสามารถร้องเรียนได้ที่อีเมล CEOoffice@praram9.com หรือ โทรร้องเรียนถึงผู้บริหารระดับสูงโดยตรงที่เบอร์ 087-111-5994
ผลการประเมินประเด็นการละเมิดด้านจรรยาบรรณธุรกิจการดำเนินการของคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน ปี 2565
ไม่มีการละเมิดด้านการดำเนินการ
การบริหารจัดการคู่ค้า
บริษัทให้ความสำคัญในการพัฒนาคู่ค้าในการบริหารจัดการคู่ค้าให้มีแนวปฏิบัติที่เป็นไปในแนวทางเดียวกันในการปฏิบัติตามกฎหมายและพัฒนาการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของคู่ค้า โดยการประเมินคู่ค้ารายสำคัญและคู่ค้าใหม่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ตามแผนการพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของคู่ค้า นำไปสู่การลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ดังนี้
นโยบายการชำระสินเชื่อทางการค้า
ระยะเวลาชำระสินเชื่อทางการค้าเฉลี่ย ปี 2565 = 45 วัน