นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสังคม
บริษัทมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและสังคมได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายตามมิติสังคม สร้างสุขภาวะที่ยั่งยืน ถือเป็นภาระกิจหลักขององค์กรในการดูแลสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในประเด็นมิติสังคม อาทิ เช่น การเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน ความรับผิดชอบต่อทรัพยากรบุคลากร ความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ และการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคม โดยบูรณาการเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดำเนินธุรกิจโดยปกติ นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างยั่งยืน
บริษัทให้ความสำคัญในการพัฒนาพนักงานต่อการพัฒนาความรู้และทักษะการทำงาน สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ดูแลสุขภาพพนักงาน จัดทำเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ และสร้างความผูกพันต่อพนักงานสอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs เป้าหมายที่ 3, 4, 5, 8 และ 9 นอกจากนี้โรงพยาบาลยังมุ่งเน้นการบริการที่มีความเป็นเลิศด้านบริการในการพัฒนาศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง การบริการสุขภาพดิจิทัล การพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางในสังคม การพัฒนานวัตกรรมการบริการสุขภาพ การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์สุขภาพในการยกระดับคุณภาพชีวิตคนในสังคมให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวและมีความมั่นคงในชีวิต นำไปสู่การให้บริการระบบสุขภาพแบบบูรณาการในการสร้างสุขภาวะที่ยั่งยืนอย่างความสมดุลทั้ง 4 มิติ ประกอบด้วย สุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ สุขภาพปัญญา และสุขภาพสังคม ดังนี้
เป้าหมายการจัดการด้านความยั่งยืนมิติสังคม
การบริหารจัดการด้านสังคม
บริษัทขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนในรูปแบบการสร้างคุณค่าร่วมระหว่างองค์กรและผู้มีส่วนได้เสีย โดยกำหนดกลยุทธ์และแนวทางปฏิบัติงานให้ตอบโจทย์ความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย ผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการทางธุรกิจให้เกิดมูลค่าและคุณค่าเพิ่มต่อผู้มีส่วนได้เสีย โดยมุ่งเน้นการรักษาโรคซับซ้อน อาทิ เช่น เบาหวาน หัวใจ ไต เป็นต้น และสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้าในการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว จากการพัฒนาการรักษาแบบ Telemedicine โดยใช้ AR และ VR การประยุกต์ใช้ AI ในการวินิจฉัยโรค และการติดตามผู้ป่วยจากระยะไกล ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีดิจิทัล นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืน ดังนี้
โครงการพัฒนาการสร้างงานที่มีคุณค่าและความเท่าเทียมทางเพศ
บริษัทร่วมเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สตรี โดยในปี 2565 สัดส่วนพนักงานเพศหญิง ต่อพนักงานทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 71.91
ร่วมสร้างงานที่มีคุณค่าและความเท่าเทียมทางเพศต่อการเสริมพลังทางสังคมให้แก่สตรีในการสร้างสุขภาวะที่ยั่งยืนทางปัญญา ทางกายและทางใจ โดยในปี 2565 สัดส่วนแพทย์เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 47.85 สัดส่วนพยาบาลแพทย์หญิงคิดเป็นร้อยละ 96.54 สัดส่วนบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 83.15 บุคคลากรฝ่ายอื่นๆคิดเป็นร้อยละ 67.97
ผลการดำเนินงานด้านการเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน
การเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน
การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน
การพัฒนาทรัพยากรบุคคล
บริษัทให้ความสำคัญต่อการบริหารทรัพยากรบุคคลในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ และการดูแลพนักงานให้เกิดความผูกพันกับองค์กรถือเป็นอีกความท้าทายหนึ่งขององค์กร โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลายทั้งการพัฒนาทรัพยากรบุคคล การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่มีความปลอดภัย ควบคู่กับการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีศักยภาพ ติดตามประสิทธิผลจากตัวชี้วัดอัตราความพึงพอใจของพนักงาน เพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบการบริหารพร้อมทั้งใช้ระบบวิเคราะห์เกี่ยวกับพนักงานในด้านต่างๆ ในการวางแผนด้านความรับผิดชอบต่อบุคลากร วิเคราะห์ทักษะที่ยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมและสนับสนุนกระบวนการสรรหาและจ้างพนักงานที่เป็นธรรม นำไปสู่การพัฒนาความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร
ในปี 2565 รอบปีที่ผ่านมา บริษัทส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรบุคคลทุกระดับให้มีบทบาทสำคัญต่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆที่ดีต่อลูกค้าและสร้างคุณค่าใหม่ ผ่านการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และความรู้สมัยใหม่ในการพัฒนากระบวนการให้บริการที่มีความปลอดภัย รวดเร็วและสะดวก รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของพนักงานให้เป็นไปตามวัฒนธรรมองค์ โดยจัดทำโครงการพัฒนาบุคลากรต่างๆ ที่เหมาะสมด้วยการยกระดับ Reskill และ Upskill ทั้งในด้าน Soft Skill และ Hard Skill เพื่อพัฒนาหรือปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจ รูปแบบธุรกิจ หรือพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการสร้างภาวะความเป็นผู้นำ และวางแผนเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพที่ชัดเจน (Career Path) นำไปสู่การมีเป้าหมายการจัดการด้านความรับผิดชอบต่อบุคลากร ประกอบด้วย ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมงต่อคนต่อปี (ปรับเป้าหมายจากเดิม ชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 10 ชั่วโมงต่อคนต่อปี) ส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานตามเป้าหมาย อัตราการเกิดอุบัติเหตุและอัตราการเจ็บป่วยจากการทำงานเป็นศูนย์ สร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี สร้างความผูกพัน สร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ ตามเป้าหมายความรับผิดชอบต่อทรัพยากรบุคลากร ประกอบด้วย อัตราความผูกพันของพนักงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 และอัตราการลาออกน้อยกว่าร้อยละ 10 โดยมีผลการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อทรัพยากรบุคลากร ดังนี้
โครงการอบรมเฉพาะทาง
พัฒนาสถานที่ทำงานปลอดภัย
- คัดกรองผู้ป่วยตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
- ติดเครื่องหมาย COVID SAFE เมื่อผ่านจุดคัดกรอง
- แยกผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ไปที่ศูนย์ระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ซึ่งอยู่นอกอาคารโรงพยาบาล
- สวมหน้ากากอนามัยทุกคน เมื่อเข้าเขตพื้นที่โรงพยาบาล
- จัดที่นั่งผู้รับการรักษาระยะห่างไม่ต่ำกว่า 1-2 เมตร
- มีเจลแอลกอฮอล์ให้บริการทั่วทุกจุดในโรงพยาบาล
- ตรวจสอบแสง เสียง ความร้อน สารเคมี และรังสีในสถานที่ทำงาน
- จัดสถานเว้นระยะห่างในห้องอาหารให้กับพนักงาน
ส่งเสริมบุคลากรปลอดภัย
- แยกเจ้าหน้าที่ดูแลกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยทั่วไปออกจากกัน
- เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องสวมใส่หน้ากาก N95 และหน้ากากอนามัย
- ปฏิบัติตามมาตรฐานควบคุมการแพร่เชื้อครบถ้วน โดยการใส่ชุด PPE, Face Shield และถุงมือยาง
จัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ปลอดภัย
- จัดหาเครื่องมือสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อทางเดินหายใจ และสอนการทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกชิ้น ทั้งก่อนละหลังการใช้งานตามมาตรฐานทางการแพทย์
- จัดฝึกอบรมเพิ่มทักษะความชำนาญในการยกพยุงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเพื่อความการบริการอย่างมืออาชีพ
สร้างความผูกพันของพนักงาน
พนักงานเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าสูงสุดและเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความสำเร็จของธุรกิจ บริษัท จึงมุ่งมั่นพัฒนาและส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมองค์กร Safety contour ให้เกิดความรัก ความสามัคคีขึ้นภายในบริษัท รวมทั้งยึดมั่นในหลักการปฏิบัติต่อพนักงานบนพื้นฐานของความเป็นธรรม ทั้งในด้านโอกาส ความก้าวหน้าในการทำงาน ค่าตอบแทน สวัสดิการ การพัฒนาศักยภาพ ความรู้ความสามารถ สิทธิส่วนบุคคล รวมถึงปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการปฏิบัติงานภและสุขอนามัยของพนักงาน
สร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ
พนักงานถือเป็นรากฐานและหัวใจสำคัญของการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและการเจริญเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน บริษัทให้ความสำคัญในทุกเสียงสะท้อนของพนักงานที่ได้รับจากทุกช่องทางทั้งแบบสำรวจ การพบปะพูดคุย หรือจากการส่งข้อความผ่านสื่อต่างๆ ทำให้บริษัท เข้าถึงและเข้าใจความต้องการของพนักงานซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญ และสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังหรือความต้องการของพนักงานได้ตรงประเด็น นำไปสู่การสร้างความพึงพอใจของพนักงาน ส่งผลให้บุคลากรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้อและกระตุ้นต่อการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างอิสระและสร้างความผูกพันของบุคลากรต่อองค์กร โดยในปี 2565 บริษัท สร้างความผูกพันของพนักงาน สร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ ผ่านกิจกรรม ดังนี้
ผลการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อทรัพยากรบุคลากร
ความรับผิดชอบต่อทรัพยากรบุคลากร
ในปี 2565 บริษัทส่งเสริมการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ต่อการพัฒนาทักษะของบุคลากร โดยมีการชั่วโมงการฝึกอบรมในการพัฒนารวม 66,852 ชั่วโมง คิดเป็นชั่วโมงอบรมเฉลี่ย 48.37 ชั่วโมงต่อคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 366 ในส่วนของการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พบว่ามีอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน 0.21 ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 70 และอัตราการเจ็บป่วยจากการทำงานเป็นศูนย์ และจากการมุ่งมั่นสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี สร้างความผูกพัน สร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ ส่งผลให้ในปี 2565 ผลการประเมินความผูกพันของพนักงาน มีอัตราความผูกพันของพนักงาน ร้อยละ 80.90 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 5 มีอัตราการลาออกของพนักงาน ร้อยละ 12.75 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 15 และมีอัตราการลาออกจากงานโดยสมัครใจของพนักงาน High Performance ร้อยละ 4.75 ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 1.1
การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อทรัพยากรบุคลากร
ในปี 2565 บริษัทมีเป้าหมายการจัดการด้านความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ ประกอบด้วย จำนวนผู้ใช้บริการ Virtual hospital เติบโต 10 เท่า ภายในปี 2568 เทียบกับปีฐาน 2563 และอัตราความพึงพอใจของผู้รับบริการ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ผ่านการสร้างวัฒนธรรมองค์กรและวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ที่มีความคล่องตัว รวดเร็ว อันเป็นรากฐานที่จะช่วยให้องค์กรพร้อมรับมือกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในอนาคต และสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันใหม่ด้านเทคโนโลยี ดังนี้
การพัฒนาระบบ Virtual Hospital โดยศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์ โรงพยาบาลพระรามเก้า (Praram9V)
การพัฒนาระบบ Virtual Hospital ของโรงพยาบาล โดยศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์ โรงพยาบาลพระรามเก้า (Praram9V) ด้วยแนวคิด “Patient centric care” คือให้การดูแลแบบมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยตามนโยบาย Digital Hospital ของโรงพยาบาล และด้วยจุดมุ่งหมายที่จะทำให้การเข้าถึงบริการทางการแพทย์สะดวก ง่าย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการยุคปัจจุบันที่ต้องการลดการเดินทางมาโรงพยาบาล ลดความแออัด จึงใช้แนวคิด “Decentralized healthcare service” กระจายการให้บริการไปยังที่ ผู้รับบริการสะดวก เช่น ที่บ้าน ที่ทำงาน โดยมีบริการ Telemedicine และ Smart healthcare services
โครงการ Telemedicine ของศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์สามารถพูดคุยกันได้แบบ Real-time แพทย์สามารถสังเกตอาการเจ็บป่วยได้ทันที ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงการรักษา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาล สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ โดยแพทย์สามารถรับคำปรึกษา ตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างไร้ข้อจำกัดในเรื่องเวลาและสถานที่ อีกทั้งทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง และผู้สูงอายุที่เดินทางมาโรงพยาบาลลำบาก ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด อีกทั้งยังมีการให้บริการ clinic telemedicine เป็นพิเศษตามสถานการณ์ เช่น คลินิกให้คำปรึกษาเรื่องวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และคลินิกให้การรักษาผู้ป่วยโควิดกลุ่มที่อาการไม่รุนแรง สามารถดูแลรักษาที่บ้านได้ ทำให้จำนวนผู้ใช้บริการระบบ telemedicine ของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โครงการ Smart healthcare services ระบบดูแลสุขภาพอัจฉริยะ สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวแต่มีความเสี่ยงของการเกิดโรค หรือใส่ใจในการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ โดยศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์ได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่ทันสมัยให้สามารถทำงานเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆที่ให้การวินิจฉัยและติดตามอาการของโรคอย่างทันสมัยที่บ้านได้ พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาอย่างทันท่วงทีและทำให้การรักษาได้อย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องตรวจน้ำตาลแบบต่อเนื่องสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน (CGMS) ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครบวงจรโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาล และนักโภชนาการ จึงสามารถควบคุมอาการของโรคได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้การให้บริการ Virtual Hospital ของศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์ได้ดำเนินการขยายจุดให้บริการไปยังนอกโรงพยาบาล เช่น การให้บริการ telemedicine ในร้านขายยา หรือ outreach ของโรงพยาบาลพระราม 9 ซึ่งอยู่ในห้องพยาบาลของบริษัทและโรงเรียนเอกชน ชั้นนำ ทำให้สามารถขยายฐานการให้บริการไปยังผู้ใช้บริการรายใหม่ให้กับโรงพยาบาลได้
ผลการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ
ความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ
ผลการพัฒนาระบบการให้บริการในการตรวจ วินิจฉัย รักษาและดูแลสุขภาพ ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ตามเป้าหมายในการก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลดิจิทัล (Virtual Hospital) ส่งผลให้ในปี 2565 จำนวนผู้ใช้บริการ Virtual hospital เติบโตขึ้น 2.37 เท่าจากปี 2564 และอัตราความพึงพอใจของผู้รับบริการร้อยละ 98.14 ซึ่งลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 0.43
การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ
ในปี 2565 รอบปีที่ผ่านมา บริษัท ได้ทบทวนเป้าหมายด้านการมีส่วนร่วมกับชุมชน โดยมีเป้าหมายการจัดการด้านการมีส่วนร่วมกับชุมชน โดยการดำเนินกิจกรรมเพื่อชุมชนและสังคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ภายในปี 2568 เทียบกับปีฐาน 2563 ผ่านการทำกิจกรรมการให้ความรู้คนในชุมชนและสังคม นำไปสู่การส่งเสริมสุขภาพและการจ้างงานที่ยั่งยืน อันเป็นรากฐานที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชนและสังคม ดังนี้
โครงการสัมมนา Online เรื่อง ปัญหา...โรคความดันโลหิตสูง
จัดสัมมนาให้ความรู้เรื่อง เรื่อง ปัญหา...โรคความดันโลหิตสูง ให้กับบริษัทริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 มีผู้เข้าร่วมสัมมนา 51 คน และมีการส่งคลิปไปให้ฝ่ายบุคคลแชร์ให้พนักงานรับชมย้อนหลัง
โครงการ Praram9 Healthy Kids
จัดกิจกรรมบรรยาย: "เมื่อเกิดอุบัติเหตุกับลูกน้อย...คุณพ่อคุณแม่ควรทำอย่างไร?" โดย พญ.นงนภัส เก้าเอี้ยน กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางเดินหายใจในเด็ก โรงพยาบาลพระรามเก้า
บทความสุขภาพ Knowledge Sharing
บทความสุขภาพเชิงป้องกัน
บทความสุขภาพเชิงรักษา
ผลการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมกับชุมชน
การมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคม
ผลการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคมให้มี ความมั่นคงทางสุขภาพ ในปี 2565 ทั้งหมด 20 กิจกรรม ส่งผลให้ การทำกิจกรรมเพื่อชุมชนและสังคมเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2564 ถึงร้อยละ 17.65